นโยบายความเป็นส่วนตัวลูกค้า

กลุ่มบริษัทแกรนด์สปอร์ต

กลุ่มบริษัท แกรนด์สปอร์ต ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง (i) บริษัท แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จำกัด (ii) บริษัท แกรนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด และบริษัทในเครืออื่นที่จะมีการประกาศให้ทราบ (“บริษัท”) ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกาย และอุปกรณ์กีฬา ผ่านช่องทางขายของกลุ่มบริษัท Grand Sport (“สินค้า”) ให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัว และเคารพสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าของบริษัท

ดังนั้น บริษัท ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจึงมีจุดประสงค์จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้าฉบับนี้ (“นโยบาย”) ที่กำหนดเกี่ยวกับสิทธิ เงื่อนไขและความจำเป็นของบริษัทในการเก็บ ประมวลผล และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในฐานะลูกค้าที่ติดต่อมายังบริษัท และ/หรือซื้อสินค้า (“ลูกค้า”) เพื่อแจ้งให้ลูกค้าทราบ 

การยอมรับนโยบาย 

นโยบายฉบับนี้ใช้สำหรับการติดต่อ และ/หรือการซื้อขายสินค้าของบริษัทโดยตรง ซึ่งอาจเป็นการติดต่อผ่าน ช่องทางการติดต่อ สื่อสาร ทั้งในลักษณะที่เป็น Offline ได้แก่ การซื้อสินค้าหน้าร้าน หรือเป็นการติดต่อซื้อสินค้าโดยตรงกับบริษัท และ Online ซึ่งรวมถึงการติดต่อสื่อสารผ่านเว็บไซต์ หรือ Social Media (Facebook / Line Official Account หรือช่องทางออนไลน์อื่น) ของบริษัท และช่องทางการจัดจำหน่ายของบุคคลภายนอกซึ่งบริษัทเป็นผู้บริหารจัดการช่องทางการจัดจำหน่ายดังกล่าว โดยไม่มีผลใช้บังคับกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบุคคลภายนอกอื่นที่บริษัทไม่มีอำนาจควบคุม แม้จะดำเนินการเชื่อมต่อกับการให้บริการของทางบริษัท (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยผู้ให้บริการระบบการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ หรือช่องทาง Marketplace อื่น) ซึ่งสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบุคคลภายนอกดังกล่าว ลูกค้าต้องศึกษาเกี่ยวกับนโยบายการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บุคคลภายนอกดังกล่าวแยกจากนโยบายฉบับนี้

ทั้งนี้ เมื่อลูกค้าติดต่อ และ/หรือซื้อสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึงส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัท ทางบริษัทจะถือว่าลูกค้าตกลงและยอมรับนโยบายฉบับนี้แล้ว

ทั้งนี้ ทางบริษัทสงวนสิทธิในการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ ตามแต่ละระยะเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และรูปแบบการติดต่อ การขาย การจัดส่งสินค้า รวมถึงการให้บริการต่างๆ ของบริษัทที่ให้แก่ลูกค้า ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ด้วยการประกาศนโยบายฉบับปรับปรุงใหม่ผ่านทางช่องทางการติดต่อของบริษัท

นิยามศัพท์ 

ภายใต้นโยบายฉบับนี้ (ก) ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของบุคคลธรรมดาคนหนึ่งนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม และ (ข) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งบริษัทมีการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงลูกค้าซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา และตัวแทนผู้มีอำนาจลงนาม หรือบุคคลเกี่ยวข้องอื่นของลูกค้าที่เป็นนิติบุคคล (เช่น กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม หรือผู้รับมอบอำนาจที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น) ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัย กรณีที่ลูกค้านำส่งข้อมูลของบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องของลูกค้าให้แก่บริษัท เมื่อได้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ทางบริษัทจะถือว่า ลูกค้าได้ให้การรับประกันสิทธิในการส่งต่อและเปิดเผยข้อมูลของบุคคลภายนอกทั้งหมดให้แก่ บริษัทเพื่อการประมวลผลข้อมูลภายใต้นโยบายฉบับนี้แล้ว

แหล่งข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการประมวลผล

บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า และ/หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจาก 2 แหล่งที่มา ดังนี้ 

  1. ได้รับโดยตรงจากลูกค้า ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ (ก) การติดต่อสอบถามผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่บริษัทอาจมี ได้แก่ โทรศัพท์ Social Media Website (ข) การเข้าใช้บริการหน้าร้านของบริษัทหรือการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท (ค) การที่ลูกค้าเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายของบริษัทผ่านช่องทางต่าง ๆ (ง) การที่ลูกค้ากรอก นำส่งข้อมูล รวมถึงเอกสารแบบฟอร์มอื่นใดเพื่อการซื้อสินค้า และการใช้บริการสนับสนุนต่าง ๆ ของบริษัท หรือ (จ) การเก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติ โดยระบบของบริษัทที่อาจเก็บ รวบรวม ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่ติดต่อใช้บริการผ่านทางช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท เมื่อลูกค้าเข้าชมเว็บไซต์
     
  2. ได้รับจากบุคคลอื่น ซึ่งอาจรวมถึงผู้ให้บริการภายนอกที่บริษัทได้ว่าจ้างเข้ามาเกี่ยวข้องกับการขายสินค้าและให้บริการของบริษัท (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงผู้ให้บริการ Marketplace) ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก หรือบุคคลอื่นที่อาจแนะนำท่านมายังบริษัท ซึ่งบริษัทจะแจ้งลูกค้าทราบ


ข้อมูลที่มีการประมวลผล

ในการติดต่อประสานงาน การซื้อขายสินค้า การชำระราคา การจัดส่งสินค้าระหว่างบริษัทและท่าน บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าในแต่ละขั้นตอน ดังต่อไปนี้

  1. สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าหน้าร้านแกรนด์สปอร์ต ข้อมูลภาพถ่ายใบหน้าของลูกค้าที่บริษัทอาจจัดเก็บด้วยระบบกล้อง CCTV ที่มีการติดตั้งอยู่ภายในพื้นที่ร้านค้า และการจัดเก็บภาพถ่ายจากการเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทที่อาจจัดขึ้น ทั้งในลักษณะของการจัดกิจกรรมและการจัดทำการถ่ายทอดสดหรือการบันทึกวีดีโอต่างๆ ภายในพื้นที่ร้านค้า 
    ทั้งนี้ กรณีของการจัดกิจกรรมหรือการจัดทำการถ่ายทอดสดดังกล่าว หากลูกค้าไม่ประสงค์ให้มีการถ่ายภาพ ควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ที่มีการถ่ายทอดสดหรือลูกค้าสามารถแจ้งจุดประสงค์ปฏิเสธการถ่ายภาพดังกล่าวได้
     
  2. สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าผ่านช่องทาง Online ได้แก่ (1) ข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า ได้แก่ ข้อมูลรายละเอียดคำสั่งซื้อ สินค้าที่ซื้อ และจำนวนยอดเงินรวมจากการซื้อสินค้า เป็นต้น และ (2) ข้อมูลทางเทคนิค (Online Identifier) ของลูกค้า ได้แก่ ข้อมูลแหล่งที่ตั้ง รวมถึง IP address และ/หรือ domain name ของลูกค้า และหน้าเพจอื่นๆ ที่ส่งลูกค้ามายังเว็บไซต์ของบริษัท ประเภทและ Version ของ Browser การตั้งค่าระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ของลูกค้า หรือ (3) การใช้คุกกี้ (กรณีที่ลูกค้าให้ความยินยอม) ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถศึกษานโยบายคุกกี้ของบริษัทได้เพิ่มเติม
     
  3. สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าโดยตรงจากบริษัทแบบ Offline ซึ่งรวมถึงการติดต่อประสานงานเพื่อการจำหน่ายสินค้าโดยฝ่ายขายของบริษัท กรณีลูกค้าเป็นนิติบุคคล บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ข้อมูลของกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของลูกค้า ซึ่งรวมถึงสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการดังกล่าว และข้อมูลของผู้ติดต่อของบริษัท เป็นต้น
     
  4. ข้อมูลการชำระราคา และ/หรือข้อมูลสำหรับการออกใบกำกับภาษี ซึ่งรวมถึง ข้อมูลการชำระเงินค่าสินค้า ซึ่งอาจรวมถึง Payment Slip หรือข้อมูลบัตรเครดิต ที่จะมีการเก็บผ่านระบบ POS รวมถึงหลักฐานการชำระเงินอื่น และในกรณีการขอออกใบกำกับภาษี ได้แก่ เอกสารแสดงตน (เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง เป็นต้น) รวมถึงสำเนาเอกสารดังกล่าว
     
  5. ข้อมูลสำหรับการจัดส่งสินค้า สำหรับการซื้อสินค้าที่ลูกค้าต้องการให้มีการจัดส่งสินค้าทั้งการซื้อสินค้าผ่านช่องทาง Online / Offline หรือผ่านการขายแบบตรงอื่น ได้แก่ ชื่อนามสกุล ที่อยู่การจัดส่งสินค้า และข้อมูลการติดต่อประสานงาน เช่น เบอร์โทรศัพท์หรืออีเมล เป็นต้น
     
  6. ข้อมูลอื่นที่ลูกค้าอาจให้แก่บริษัทในแบบฟอร์มต่าง ๆ ที่อาจมีการจัดทำขึ้นระหว่างบริษัทและลูกค้าดังกล่าว ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง แบบฟอร์มการรับประกันความชำรุดบกพร่อง (Warranty Card) หรือซ่อมบำรุงสำหรับกรณีการจำหน่ายอุปกรณ์กีฬาบางประเภท ตามเงื่อนไขที่บริษัทอาจกำหนด หรือการให้ข้อมูลเพื่อการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขาย การสำรวจ การแข่งขัน การชิงรางวัล หรือกิจกรรมลักษณะใดๆ กับบริษัท
     
  7. ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่ลูกค้าอาจนำส่งให้แก่บริษัท เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เช่น ข้อมูลการติดต่อ เพื่อรับการบริการสนับสนุน หรือแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านช่องทางที่บริษัทกำหนด เป็นต้น
     

วัตถุประสงค์และระยะเวลาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าตามที่ระบุไว้ข้างต้น เพื่อวัตถุประสงค์และระยะเวลา ดังนี้:

  1. เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา บริษัทต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เพื่อ
    • เพื่อการตอบคำถาม หรือการจัดการข้อร้องเรียน หรือการให้ความคิดเห็นต่าง ๆ ตามที่ลูกค้าอาจแจ้งมายังบริษัท
    • การจัดทำเอกสารการซื้อขาย รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การจัดทำเอกสารทางบัญชี หรือการจัดทำสัญญา (ถ้าเกี่ยวข้อง)
    • การติดต่อประสานงาน เพื่อการปฏิบัติสิทธิและหน้าที่ที่บริษัทมี ภายใต้เงื่อนไขการซื้อขาย (รวมถึงสัญญาการให้บริการอื่น) ระหว่างบริษัทและลูกค้า ซึ่งรวมถึงการยืนยันคำสั่งซื้อสินค้า ยืนยันลูกค้าผู้ซื้อสินค้า ยืนยันการชำระเงิน การจัดส่งสินค้า การติดตั้ง การซ่อมบำรุงรักษาอุปกรณ์ ตามที่อาจประกาศกำหนดโดยบริษัทเพื่อให้บริการแก่ลูกค้า
    • การปฏิบัติตามสัญญาอื่นที่ลูกค้าและบริษัทเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของลูกค้า รวมถึงการพิจารณาคุณสมบัติและความเหมาะสมในการเข้าร่วมกิจกรรมที่ลูกค้าอาจเข้าร่วม

      เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าไว้ ตลอดระยะเวลาที่บริษัทยังมีหน้าที่ในการให้บริการจัดส่งหรือส่งมอบสินค้าให้แก่ลูกค้าภายใต้สัญญาซื้อขาย หรือสัญญาการให้บริการอื่นที่อาจเกี่ยวข้อง
       
  2. เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่บริษัทต้องดำเนินการ เช่น การจัดทำบัญชีและชำระภาษีของบริษัท โดยเฉพาะกรณีที่ลูกค้าอาจขอใบกำกับภาษีจากบริษัท บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าเพื่อการจัดทำเอกสารดังกล่าว ตลอดระยะเวลาตามกรอบที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด
     
  3. เพื่อการดำเนินการเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย โดยไม่กระทบสิทธิลูกค้าในฐานะเจ้าของข้อมูลเกินสมควร ได้แก่
    • การสร้างและปรับปรุงความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่บริษัทมีกับลูกค้า ซึ่งอาจรวมถึงการวิเคราะห์ สอบสวน จัดการและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัท การสอบถามความพึงพอใจในการให้บริการ การจัดทำรายงานการติดตามตรวจสอบภายในเกี่ยวกับการให้บริการของบริษัทให้แก่ลูกค้า การวิเคราะห์และบริหารความเสี่ยงภาพรวมขององค์กร การฝึกอบรม หรือติดตามการให้บริการของพนักงานของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทสงวนสิทธิ์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็น และอาจเก็บข้อมูลในลักษณะของสถิติที่ไม่สามารถระบุตัวตนของลูกค้าต่อเนื่อง
    • การใช้ข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ ในการปรับปรุงความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่บริษัทมีกับลูกค้า รวมถึงการวิเคราะห์ปรับปรุงการให้บริการ การออกแบบผลิตภัณฑ์ รวมถึงการจัดกลุ่มของลูกค้าเพื่อประโยชน์ในการวางแผนการทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ของบริษัท
    • การใช้ภาพถ่ายใบหน้าของลูกค้าที่หน้าร้าน ซึ่งเก็บรวบรวมด้วยระบบ CCTV เพื่อรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่ร้าน และเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าที่มาใช้บริการภายในพื้นที่ร้าน
    • การใช้ข้อมูลภาพถ่ายและข้อมูลการประชาสัมพันธ์อื่นของเจ้าของข้อมูลที่เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่างๆ เพื่อประโยชน์ในการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัท
    • การเก็บข้อมูลเพื่อประโยชน์การปกป้องสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ในกรณีเกิดข้อร้องเรียนหรือการต่อสู้ใดระหว่าง บริษัทและลูกค้า

      เพื่อวัตถุประสงค์นี้ บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะเท่าที่จำเป็น เป็นระยะเวลาตามที่เหมาะสมสำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ โดยจะไม่ดำเนินการใดที่กระทบสิทธิของเจ้าของข้อมูลเกินสมควร
       
  4. ในกรณีที่ได้รับความยินยอมจากลูกค้า บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เพื่อวัตถุประสงค์ที่ลูกค้าให้ความยินยอมเฉพาะดังกล่าว เช่น การใช้ข้อมูลเพื่อการติดต่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสินค้าอื่นของบริษัทรวมถึงบริษัทในเครือ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงสินค้าของแกรนด์สปอร์ต และสินค้าแบรนด์อื่น) ซึ่งตรงกับความสนใจของลูกค้า ให้แก่ลูกค้าผ่านช่องทางการติดต่อต่างๆ 

    ทั้งนี้ บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว จนกว่าลูกค้าจะยกเลิกความยินยอมที่ลูกค้าได้ให้แก่บริษัท โดยการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ลูกค้าได้ให้ความยินยอมไปแล้ว


การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

โดยหลักการแล้ว บริษัทจะไม่เปิดเผยหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่บุคคลภายนอก แต่ในกรณีจำเป็นบริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้ 

  1. ผู้ให้บริการภายนอกที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจรวมถึง (i) บริษัทในเครือ บริษัทพันธมิตร ผู้ให้บริการภายนอกที่ให้บริการสนับสนุนแก่บริษัท ในการปฏิบัติหน้าที่และใช้สิทธิที่บริษัทอาจมีต่อลูกค้า (ii) ผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจของบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ผู้ให้บริการที่ปรึกษาต่าง ๆ ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เฉพาะเท่าที่จำเป็น ตามกรอบเงื่อนไขการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจะได้จัดทำและลงนามร่วมกับผู้ให้บริการภายนอกดังกล่าว

    ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทมีการโอน ถ่าย และ/หรือ ส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปให้แก่ ผู้ให้บริการที่ดำเนินกิจการและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในต่างประเทศ บริษัทจะกำหนดมาตรฐานในการทำข้อตกลง และ/หรือสัญญาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ให้บริการที่จะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น โดยมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลนั้น จะได้รับการคุ้มครองอย่างปลอดภัย
     
  2. หน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่บริษัทอาจมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่หน่วยงานนั้นตามกฎหมาย ตามคำสั่งของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น เช่น กรมสรรพากร เป็นต้น โดยบริษัทจะเปิดเผยหรือส่งต่อข้อมูลเฉพาะเพียงเท่าที่จำเป็นตามหน้าที่ดังกล่าวเท่านั้น
     
  3. กรณีที่ลูกค้าให้ความยินยอม บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลที่ลูกค้าระบุไว้เป็นการเฉพาะ
     

มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทรับประกันการจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ บริษัทจะทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะ เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมตามมาตรฐานในอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

สิทธิของเจ้าของข้อมูล

บริษัทเคารพสิทธิตามกฎหมายของลูกค้าในฐานะเจ้าของข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในการควบคุมของบริษัท โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิที่มีดังต่อไปนี้ได้ตามกรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (1) สิทธิเพิกถอนความยินยอม (2) สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (3) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (4) สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (5) สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (6) สิทธิขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น (7) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้

ลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ หรือติดต่อเพื่อใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัทจะแจ้งผลการพิจารณาคำร้องของท่านให้ทราบภายในระยะเวลาที่เหมาะสมตามกรอบกฎหมาย

กรุณาติดต่อบริษัทที่ dpo@grandsport.com